มันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา แต่มันเกี่ยวกับการที่เรา ‘ตีความ’ เรื่องที่เกิดขึ้น!
การที่แต่ละคน ‘ตีความ’ เรื่องที่เกิดขึ้นไม่เหมือนกันก็ทำให้การตอบสนองต่อเรื่องนั้นๆของแต่ละคนแตกต่างกันไป
ฉะนั้นคุณต้องกลับมาดูให้ดีถึง ‘สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่’ ในฐานะ ‘ข้อเท็จจริง’ ซึ่ง ‘การตีความ’ ของคุณต่อข้อเท็จจริงเหล่านั้นมันจะส่งผลต่อ ‘การกระทำ’ ของคุณ
ความจริงที่เกิดขึ้นอยู่ปัจจุบันทำให้หลายคนต้องลำบากอยู่ มันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นซึ่งหากคุณ ‘ตีความ’ ข้อเท็จจริงเหล่านี้โดยมัวแต่โทษสภาพแวดล้อมและคนรอบข้างคุณ คุณก็จะหาทางออกไม่เจอเพราะ ‘ข้อเท็จจริง’ นั้นมันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงได้คือ ‘การตีความ’ สิ่งที่เกิดขึ้นของตัวคุณเอง
มันเป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดหากคุณไม่ใช่เด็กเล็กๆ เพราะเด็กๆนั้น ‘การรับรู้’ เรื่อง ‘ความทุกข์’ เป็นเรื่องยากกว่าผู้ใหญ่มาก ทำไมเด็กๆถึงไม่ทุกข์กัน? ยิ่งเด็กอายุน้อยกว่า 8-10 ขวบแล้วก็แทบจะไม่ทุกข์กันถึงแม้เด็กบางคนต้องรับผิดชอบทำงานหนักช่วยเลี้ยงครอบครัวก็ตาม แล้วตัวคุณหละ?ที่คุณทุกข์มากขึ้นเรื่อยๆเมื่ออายุมากขึ้นเรื่อยๆเป็นเพราะอะไร? หากคุณหันกลับมามองสิ่งเหล่านี้แล้วช่วยให้คุณเลิกที่จะทุกข์ลงได้บ้าง หากมันช่วยยกความทุกข์ออกไปจากคุณได้บ้างจากการที่คุณเปลี่ยน ‘การตีความ’ สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วทำให้คุณมุ่งมั่นที่จะฟันฝ่าต่อ ‘ข้อเท็จจริง’ ที่กำลังจะเกิดขึ้นไปได้ คุณก็จะกลายเป็นคนที่จิตใจเข้มแข็งและเป็นหลักให้กับคนรอบข้างคุณได้แล้วนั้น สิ่งดีๆก็จะเกิดขึ้นกับคุณแน่นอน!
แล้วมันก็จะกลายเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผ่านเข้ามาเพื่อพิสูจน์ความเข้มแข็งของคุณ ซึ่งจะทำให้คุณจะภูมิใจกับตัวคุณเองเมื่อคุณย้อนกลับมามองตัวคุณที่ไม่ยอมแพ้และสามารถฝ่าฟันผ่านวิกฤตและปัญหาต่างๆไปได้ในที่สุด!
www.JBizThai.com
Facebook : @JBizThai