เศรษกิจพอเพียง โควิด-19

ผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 และอนาคตที่จะเปลี่ยนแปลงไปเพราะวิกฤตนี้

วิกฤตโควิด-19 กระทบธุรกิจอะไรบ้าง และอนาคตจะเป็นอย่างไร?
1) อสังหาริมทรัพย์ต่างๆ โดยเฉพาะคอนโดโอเวอร์ซัพพลาย คนที่กู้หลายๆห้องมาปล่อยเช่าเกินตัวหรือเก็งกำไรจะแย่ ราคาตกกว่าตอนซื้อมาก คนไม่มาเช่า ธนาคารเองจะมีหนี้เสียจำนวนมาก
2) กระทบท่องเที่ยว – ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวหลังวิกฤตจะดีขึ้น แต่ต้องรอเศรษฐกิจฟื้นเต็มที่ก่อนการท่องเที่ยวถึงกลับมาดีได้
3) ดอกเบี้ยธนาคารคงต่ำอยู่เพราะเศรษฐกิจยังแย่อยู่ อเมริกาลดดอกเบี้ยจนจะติดลบเหมือนยุโรปแล้ว คนฝากเงินกินดอกจะลำบาก
4) บริษัทหลายบริษัทต้องปิดตัวไป ตลาดหุ้นยังทรุดอีกนาน หลายบริษัทต้องปิดอย่างถาวร หลายธุรกิจเกิดขึ้นใหม่แทนบริษัทที่ล้ม ธุรกิจทางด้านสุขภาพจะมาแรง
5) Trend การทำงานอยู่บ้าน (Work From Home) จะมาแรง บริษัทได้ทดสอบระบบการทำงานจากบ้านและตัดตำแหน่งงานที่ไม่จำเป็นออก อันตรายเกิดจากการใช้ AI ทำงานแทนตำแหน่งที่ไม่จำเป็น เร่งการพัฒนาใช้ระบบอินเตอร์เนทความเร็วสูง
6) เงินอิเลคทรอนิกส์จะมีบทบาทมากขึ้นอย่างมีนัยยะเนื่องจากการพัฒนาการใช้อินเตอร์เนทความเร็วสูง
7) ระบบการศึกษาจะเปลี่ยนไป มหาวิทยาลัยเร่งการปรับตัวตามเทรนในต่างประเทศที่เรียนออนไลน์ อาจารย์เองก็ต้องปรับตัวทำให้ระบบการศึกษาทั้งระบบต้องปรับตัวครั้งใหญ่
8) การใช้น้ำมันยังมีสัดส่วนอยู่มาก เทรนการลดการใช้น้ำมันชะลอตัวลงเนื่องจากเศรษฐกิจที่ซบเซารวมถึงราคาน้ำมันที่ต่ำ หากเปลี่ยนไปใช้พลังงานชนิดอื่นจะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นกว่าอย่างมีนัยยะ
9) ผู้ที่ทำธุรกิจต้องระวังหนี้เสียทั้งระบบเพราะกระทบกันหมด หากบริษัทหนึ่งล้มก็จะเป็นโดมิโน่ล้มตามๆกันไปได้
10) เมืองไทยควรสนับสนุนการเป็นครัวโลก สนับสนุนการเกษตรอย่างเป็นระบบ เพราะทุกประเทศก็ยังต้องมาง้อผลผลิตทางการเกษตรเรา ผู้ที่ทำเกี่ยวกับการเกษตรจะได้รับผลดี
11) ทองคำและเงิน (Silver) ยังเป็นการลงทุนที่ดีเสมอ เหมือนที่โรเบิร์ต คิโยซากิ ยังแนะนำอยู่ในปัจจุบัน

แนวทางการแก้ไขเราสามารถน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระราชดำรัสแก่ชาวไทยนับตั้งแต่ พ.ศ. 2517 เป็นต้นมา และถูกพูดถึงอย่างชัดเจนในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2540 เพื่อเป็นแนวทางการแก้ไขวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 ให้สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในกระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่างๆ นำมาปรับใช้กับวิกฤตครั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของตัวท่านและคนรอบข้างของท่านเอง

สำหรับตัวผมขอฝากไว้ว่า ผมเองผ่านวิกฤตมาแล้วหลายครั้งตั้งแต่วิกฤตปี 40 สิ่งที่ทำให้ผมอยู่รอดได้ก็คือการมีความรู้โดยเฉพาะความรู้ด้านการเงิน การใช้ชีวิตและการทำธุรกิจ ‘อะไรคือหนี้ดีอะไรคือเลว’ คือสิ่งที่ผมคอยสอนและคอยแนะนำ เพราะถ้ายังไม่เกิดวิกฤตคนก็ยังมองไม่เห็นความสำคัญนี้
หากท่านกำลังโดนวิกฤตนี้เล่นงานอยู่ ความรู้เป็นสิ่งที่จะทำให้ท่านรอดพ้นวิกฤตนี้และกลับมายืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งกว่าเดิมขอเพียงท่านอย่ายอมแพ้ เพราะท่านเป็นที่พึ่งของคนรอบข้างท่าน วิกฤตมีเพื่อทดสอบตัวเรา สิ่งที่จำเป็นคือท่านต้องออกจาก Comfort Zone ของท่านให้ได้โดยเร็ว ต้องเริ่มทำอะไรใหม่ๆที่ออกจากกรอบความคิดเดิมของท่าน ท่านต้องเชื่อมั่นในตัวเองอย่าไปหวังว่าใครจะมาปลอบใจท่าน ต้องเลิกผัดวันประกันพรุ่งและเริ่มทำมันโดยไม่ลังเล ผมเองจึงไม่ค่อยจะบอกให้ใคร “สู้ๆ” เพราะผมเองไม่อยากต้องให้ใครมาปลอบใจผมเช่นกัน ดังนั้นคุณอย่าไปคาดหวังแรงใจจากคนอื่นแต่มันต้องเริ่มจากภายในของคุณเองเท่านั้น

#เราจะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน
Credit : ขอขอบคุณรูปจากหนังสือพิมพ์มติชน

Leave a Reply

Your email address will not be published.