alibaba Jack Ma ลงทุนในไทย

จีนเปิดศูนย์กระจายสินค้าปลอดภาษีในไทยกระทบใครบ้าง? เราต้องทำอย่างไรถึงจะอยู่รอดได้?

นับถอยหลังอีกไม่กี่วันแล้ว! จีนเปิดศูนย์กระจายสินค้าปลอดภาษีในไทย 
– ดูออกไหมว่าอะไรจะกระทบตัวเรา และเศรษฐกิจโดยรวมบ้าง? 
– พวกเราเตรียมตัวรับผลกระทบกันบ้างหรือยัง?

คนที่จะได้รับผลกระทบหลักๆไม่ใช่แค่นายหน้าที่เอาของจีนมาขายในไทยทั้งแบบ dropship และนำเข้าจากจีนมาทำตลาด แต่ผู้ผลิตในไทยเองก็จะได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะผู้ซื้อสามารถเลือกของที่ถูกกว่าและได้ของรวดเร็วด้วย ทำให้ผู้ผลิตในประเทศต้องปรับตัวหากลยุทธใหม่ๆซึ่งจำเป็นต้องหาจุดเด่นแข่งกับสินค้าจีนที่ไม่ใช่เรื่องง่าย (คุณค่า v.s. ราคา)

สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แต่คุณต้องปรับตัวโดยเน้นกลยุทธการขาย เช่นการบริการ คุณภาพสินค้า การช่วยเหลือลูกค้า ฯลฯ เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการของเรา

อย่างที่ผมเคยโพสท์ไว้ก่อนแล้วว่าเรื่องที่สำคัญในการเริ่มทำธุรกิจคือหาสินค้าที่มีจุดแข็งหรือคุณทำให้เป็นจุดแข็งของคุณได้มาทำตลาดให้ถูกต้องตั้งแต่แรกจะดีกว่า สิ่งที่ขายยากและต้องใช้ทักษะในการขายโดยเฉพาะสินค้าราคาสูงซึ่งต้องอาศัยทักษะและความเข้าใจมากกว่าการขายสินค้าราคาถูกก็สามารถพัฒนาเป็นจุดแข็งของคุณได้โดยเฉพาะหากเป็นตลาดนิช (Niche) ที่คุณเป็นผู้เชียวชาญได้

ดังนั้นในการทำ Shopify ดรอปชิพนั้นจึงแนะนำว่าให้เลือกตลาด niche ก่อนค่อยเลือกสินค้า เพราะลูกค้าที่เข้ามาดูเว็บไซต์จะรู้สึกว่าเราเป็น Professional หรือมืออาชีพในสาขานั้นที่เชื่อถือได้มากกว่าเราขายของแบบจับฉ่าย

หากคุณขายของทาง shopee หรือ lazada อยู่แล้วนั้นก็อาจจะพิจารณาเปิด website เฉพาะทาง หรือตลาด Niche ที่คุณอาจจะถนัด เพราะในระยะยาวแล้วถ้าคุณยังต้องพึ่ง Shopee หรือ Lazada มากเท่าใด วันหนึ่งที่คุณโดนบล็อกบัญชีก็อาจจะทำให้คุณล้มทั้งยืนได้ต่างจากการที่คุณมีเว็บไซท์หน้าร้านของคุณเอง (ซึ่งก็มีหลายเจ้าที่ให้บริการเกี่ยวกับเว็บประเภทนี้) ผมจึงแนะนำให้คุณสำรองร้านค้าของคุณเป็นเว็บไซท์ของคุณเองและทำให้ตัวคุณเป็น professional ในด้านใดด้านหนึ่งที่มีโอกาสเติบโตในอนาคตน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในขณะนี้

#CoachJ@JBizThai

https://www.thansettakij.com/content/407512

Leave a Reply

Your email address will not be published.